งานบุญใหญ่!!! “สลากย้อม เมืองลำพูน” หนึ่งเดียวในโลก

การชูภาพลักษณ์ความเป็นวิถีไทย ถือเป็นภารกิจหลักที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขานรับนโยบายจากรัฐบาล เพื่อสร้างรายได้และกระจายเม็ดเงินให้ประชาชนไปสู่ท้องถิ่น ผ่านการท่องเที่ยวชุมชนในกลุ่มเมืองรองต่างๆ ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Go Local” ซึ่งนอกจากเรื่องของรายได้แล้ว ททท. ยังให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่มีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม และประเพณีที่มีเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนในชาติอีกด้วย

โดย “ประเพณีสลากย้อม เมืองลำพูน” ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 10-13 กันยายน 2562 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวลำพูน ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของจังหวัดลำพูน องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ททท. สภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน เทศบาลเมืองลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัย และพี่น้องชาวลำพูน นับเป็นงานประเพณีที่มีความเป็นมาและสร้างเสน่ห์ให้กับชุมชนเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่ง “นายอนันต์ สีแดง” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลำปาง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดลำปางและลำพูน กล่าวว่า “สลากย้อม” เป็นประเพณีที่ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเกิดขึ้นที่เดียวในโลก โดยมีรากฐานมาจาก “ชาวยอง” หรือกลุ่มชาติพันธุ์ลื้อจากสิบสองปันนา ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่เมืองยองในพม่าและย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดลำพูนอีกทีหนึ่ง เมื่อประมาณ 200 กว่าปีที่แล้ว

ประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน เกิดขึ้นที่จังหวัดลำพูน เป็นส่วนสำคัญของงานประเพณี “ทานสลากภัตร” เป็นการทำบุญประจำปีก่อนออกพรรษา คนล้านนามักจะจัดทานสลากภัตรในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 โดย “สลากย้อม” เป็นการถวายทานเพื่อเป็นพุทธบูชาของหญิงสาว บางพื้นที่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นหญิงสาวที่มีอายุ 20 ปีเท่านั้น ขณะที่บางพื้นที่ไม่จำเป็น ขอให้เป็นช่วงอายุ 20 ปี โดยประมาณ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสัก 2-3 ปีก็ได้ แต่สิ่งที่เชื่อเหมือนกันก็คือ ต้องเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน และเชื่อกันว่าการถวายสลากย้อมของหญิงสาวได้รับอานิสงส์ผลบุญสูงยิ่ง เทียบเท่ากับการบวชของผู้ชาย

ลักษณะพิเศษของการทานสลากย้อมคือ การนำประวัติของหญิงสาวที่เป็นเจ้าภาพของงาน หรือเป็น “ผู้ทานสลากย้อม” มาแต่งเป็นคำประพันธ์ นำมาผูกเล่าทำนองโบราณเป็นเรื่องตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้คนที่มาเที่ยวได้รับรู้ถึงประวัติและความดีงามของผู้ทานสลากย้อม ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับการ เรียกขวัญ (ฮ้องขวัญ) นาคที่กำลังจะบวช ซึ่งตามประเพณีล้านนา จะมีการเล่าเป็นทำนองเทศน์ล้านนา บอกเล่าประวัติของผู้ที่กำลังจะบวชให้รู้ว่า เป็นผู้ที่กำลังทำความดี สละทุกอย่าง เพื่อก้าวเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนา

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลำปาง กล่าวต่ออีกว่า ในประเพณีสลากย้อม ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงละคร เรื่อง “ข้าเจ้าจะทานสลากย้อม” นำเสนอเรื่องความพยายามของหญิงสาวชาวลำพูน ย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ที่จะถวายทานสลากย้อมให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เรื่องราวของการแสดงสะท้อนให้เห็นกระบวนการคิดและความศรัทธาของคนในยุคนั้น ที่มีต่อการทานสลากย้อม ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่งดงามผ่านการเล่าเรื่อง ตั้งแต่กระบวนการสร้างสลากย้อม และขั้นตอนการเตรียมการ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการถวายทานสลากย้อม

“การประกวดต้นสลากย้อม สูงไม่เกิน 12 เมตร” เป็นการประกวดการสร้างสลากย้อมที่สมบูรณ์ มีคติความเชื่อในเรื่องศาสนาและความงดงามของการสร้างสลากย้อมที่เน้นความสวยงาม ประณีต บรรจง แต่ทรงคุณค่า ลงตัวในทรวดทรงและการใช้วัสดุท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบ

“ขบวนแห่ต้นสลากย้อมสูง 8 เมตร และสูง 4 เมตร” โดยแห่จากหน้าศาลากลาง ผ่านถนนอินทยงยศ ถึงแยกประตูลี้ผ่านถนนรอบเมืองในเข้าสู่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เพื่อเฉลิมฉลองการนำสายไฟฟ้าลงดินของเทศบาลเมืองลำพูน นักท่องเที่ยวจะเห็นขบวนสลากย้อมสูง 8 เมตร และสูง 4 เมตร จำนวนกว่า 100 ต้น เคลื่อนผ่านบนถนนในเมืองลำพูน โดยมีเจ้าภาพ ผู้มีจิตศรัทธาที่จะทำทานสลากย้อมออกค่าใช้จ่ายและให้ศรัทธาหัววัดต่างๆ เป็นผู้จัดสร้าง พร้อมจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่งดงาม มีคนในชุมชนมาร่วมกันทั้งหมู่บ้าน โดยมีเจ้าภาพสลากย้อมเป็นผู้เดินนำหน้าต้นสลากย้อม และเล่าประวัติผู้ถวายทานด้วยทำนองโบราณที่เรียกว่า “ฮ่ำกะโลง” พร้อมการแสดงประกอบตลอดทาง

“การประกวดการฮ่ำกะโลง” เป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมการอ่านเรื่องราวเป็นทำนองโบราณ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของประเพณีสลากย้อมมิให้สูญหาย ซึ่งได้รับความสนใจ โดยเฉพาะจากเยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวนมาก

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลำปาง กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากมาร่วมชมงานประเพณีสลากย้อมแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์อื่นๆ ด้วยการนั่งรถรางเที่ยวชมวัดต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต พร้อมชมโบราณสถาน และสถานที่ประวัติศาสตร์มากมายในเมืองลำพูน โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ขับรถรางเป็นไกด์คอยบรรยายให้ฟัง และในช่วงประเพณีสลากย้อมก็เปิดให้บริการด้วยเช่นกัน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่รถรางจะพาไปชม เริ่มจาก “วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวลำพูนและชาวภาคเหนือตั้งแต่อดีต ซึ่งเป็นจุดจอดรถและเริ่มต้นของรถราง จากนั้นภายในเส้นทางจะผ่าน อาทิ “พิพิธภัณฑ์ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน” อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน
“คุ้มเจ้ายอดเรือน” เรือนพักอาศัย ที่เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่เจ้ายอดเรือน ชายาองค์สุดท้าย เมื่อปี พ.ศ.2470 มีความเก่าแก่และยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ต่อด้วย “อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี วัดจามเทวี” วัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนาไทย และ”วัดมหาวัน” ต้นกำเนิดของพระรอดลำพูน พระเครื่องที่เลื่องลือในหมู่เซียนพระ สร้างมาแต่ครั้งพระนางจามเทวีขึ้นครองนครหริภุญชัยในราว พ.ศ.1200 “วัดพระคงฤาษี” ที่วัดนี้มี “พระคง” พระเครื่องที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นับถืออีกองค์หนึ่งของเมืองลำพูน ถัดมาคือ “วัดสันป่ายางหลวง” วัดที่ติด 1 ใน 5 วัดสวยที่สุดในประเทศไทย ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม ยังมี “โบราณสถานกู่ช้าง กู่ม้า” หรือสุสานช้างศึก-ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี และเป็นที่ศรัทธาของชาวลำพูน เมื่อต้องการสมหวังในสิ่งใดผู้คนก็มักจะมาขอพรกัน จากนั้นและปิดท้ายทริปรถรางกันที่ “วัดพระยืน” ที่มีเจดีย์พระยืนเป็นศิลปกรรมพม่าที่มีความงดงาม

การมาร่วมงานประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร พร้อมกับชมโบราณสถาน และสถานที่ประวัติศาสตร์ต่างๆ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้พบว่า “เมืองเล็กๆ อย่างลำพูนก็มีความหลากหลาย และเข้าใจถึงวิถีถิ่นและเสน่ห์ล้านนาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”


งานนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานลำปาง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดลำปางและลำพูน โทรศัพท์ 054-222214-5 และศูนย์บริการรถรางนำเที่ยวลำพูน โทรศัพท์ 053-530757

ข้อมูล www.lamphun.go.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *