“กัญชา” ชวนชิม!!! “ม.แม่โจ้” จัดงาน “ชวนยิ้ม ชิมกัญ(ชา)” ต่อยอดงานวิจัยการใช้ชิ้นส่วนกัญชา อย่างเหมาะสม ปลอดภัย พร้อมสาธิตการปรุงเมนูเด็ดจากกัญชากว่า 40 ร้านดัง

ณ โรงปลูกกัญชาทางการแพทย์ 16,700 ต้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ “นายสำเริง ไชยเสน” รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันเปิดงานโครงการ “แม่โจ้ชวนยิ้ม ชิมกัญ(ชา)” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดขึ้น เพื่อสาธิตการนำชิ้นส่วนกัญชา ได้แก่ ใบ ต้น และราก ที่ใช้ได้อย่างถูกกฎหมายมาปรุงอาหาร โดย มีร้านอาหารทุกระดับทั้งสตรีทฟู้ดส์และร้านอาหารชื่อดัง เข้าร่วมโครงการจำนวน 45 ราย ได้สาธิตการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลาย ทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม ตั้งแต่อาหารพื้นเมืองเรื่อยไปจนถึงอาหารนานาชาติ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมและชิมฟรีตลอดการจัดงาน โดยผู้ร่วมงานทุกคนจะสามารถเลือกรายการอาหารที่ตนเองสนใจได้เพียงห้ารายการ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการป้องกันอันตรายกับผู้บริโภค ที่อาจมีอาการแพ้สารสำคัญในกัญชา ซึ่งแขกรับเชิญและประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมเพียง 500 คน ตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยจากโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาเพื่อทางการแพทย์ในระบบอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรม ที่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการที่จะนำชิ้นส่วนของกัญชา นอกจากช่อดอกมาใช้ประโยชน์และทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยมีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นต้นแบบในเรื่องการนำมาใช้ปรุงเป็นเมนูอาหาร และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและยา (อย.) ด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบและทำให้ทราบถึงคุณสมบัติที่ดีของกัญชาในการนำมาใช้ปรุงอาหาร ตลอดจนเป็นการประเมินผลข้อมูลที่นำไปสู่การวางหลักเกณฑ์ ทั้งวิธีการและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพื่อหน่วยงานรับผิดชอบจะประกาศบังคับใช้เป็นกฎระเบียบตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการมีทุกระดับ ตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สตรีทฟู๊ดส์ ร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่ม โดยทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะสนับสนุนใบกัญชาสดให้ร้านละ 200 กรัม พร้อมปริมาณแนะนำการใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารเฉลี่ยจานละ 1 ใบ รวมทั้งชิ้นส่วนของต้นและรากอีกจำนวนหนึ่งตามความเหมาะสม และตามสูตรอาหารของแต่ละร้าน เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลาย ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม ที่มีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารไทย และอาหารนานาชาติ โดยแต่ละร้านทำการปรุงเมนูจากกัญชาร้านละ 3 เมนูด้วยกัน ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมการปรุงอาหารและชิมฟรี

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นแหล่งปลูกกัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับจากผลงานวิจัย ที่พร้อมใช้ชิ้นส่วนของกัญชาสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ กล่าวย้ำว่า “แม้ว่าขณะนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขจะปลดล็อคให้ชิ้นส่วนกัญชา ทั้งใบ ต้น และราก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้นั้น ต้องนำมาจากแหล่งที่ผู้ปลูกได้รับการอนุญาตให้ปลูกถูกต้องตามกฎหมายด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการได้มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามกระบวนการก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนได้ เช่น นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่ม เป็นต้น ส่วนในกรณีถ้าหากมีผู้ประกอบการจะนำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสำอาง เพื่อจำหน่ายนั้น จะต้องมีการแจ้งและขอนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ด้วย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *