อว. พร้อมขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองหลวงเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย

เมื่อวันที่ผ่านมา ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในการประชุม “การประชุมพิจารณาให้การรับรองแปลงเกษตรอินทรีย์ตามมาตราฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (SDGs PGS)” และ “การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพหุภาคี” วาระเกษตรอินทรีย์เชียงใหม่-การขับเคลื่อนจังหวัดเชียงใหม่สู่เมืองหลวงเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทยและเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์แห่งเอเชีย พร้อมมอบเกียรติบัตรใบรับรองแปลงเกษตรอินทรีย์ตามมาตราฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (SDGs PGS) ให้แก่เกษตรกรไทย ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่ง ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า “ดีใจมากที่ทุกท่านกำลังทำเรื่องเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทำให้เกิดอาหารปลอดภัย สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดี แต่ที่ดีที่สุดคือเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภายหลังเหตุการณ์โควิด-19 ผ่านไป เชียงใหม่ที่เป็นเกษตรอินทรีย์ในยุคที่รัฐกำลังทำเรื่อง BCG จะเจริญเติบโตอย่างมาก เศรษฐกิจจะเจริญรุ่งเรือง และมีมูลค่าสูง เกิดการหมุนเวียนและปรับเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นของดี นอกจากนี้เกษตรอินทรีย์ย่อมได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นพิเศษ การทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองหลวงของการทำเกษตรอินทรีย์ เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ และสนับสนุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชียงใหม่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีมหาวิทยาลัยหลากหลายที่ดีของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งทางด้านทั่วไปและเฉพาะด้าน เชียงใหม่มีสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ตั้งอยู่ที่แม่ริม มีหอดูดาวที่ดีที่สุดของประเทศ การที่เชียงใหม่จะทำเกษตรอินทรีย์ให้กลายเป็นที่ดีที่สุดในประเทศไทย อว. พร้อมสนับสนุนและเชื่อฝีมือชาวเชียงใหม่ และขอฝากความหวังไว้กับพวกเราและขอให้มีแปลงเกษตรที่ได้รับการรับรองมากยิ่งขึ้นไปอีก”

พร้อมกันนี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงฯ พร้อมขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองหลวงเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย และดันมหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่หนทางมหาวิทยาลัยการเกษตรที่ดีที่สุด ซึ่ง ม.แม่โจ้ เป็นมหาวิทยาลัยที่เริ่มมาจากเกษตรและปัจจุบันก็ยังไม่ทิ้งเกษตร และอยากให้เชิดชูเกษตรและจริงจังให้มากขึ้น ซึ่งมาถูกทางแล้วที่ยังคงเอาไว้ซึ่งเกษตร ตรงตามจุดประสงค์เดิมของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง มหาวิทยาลัยในด้านหนึ่งนั้นเป็นกรมของ อว. อีกด้านหนึ่งเป็นความภูมิใจของภาค เป็นกำลังของภาค เป็นศักยภาพของภาค สิ่งที่ผมจะเติมให้ ม.แม่โจ้ คือ อยากให้ทุกคนมีความรู้สึกที่ว่า ม.แม่โจ้ เป็นมหาวิทยาลัยของเชียงใหม่ แม่โจ้จะเพิ่มศักยภาพอย่างไรให้คนในพื้นที่ได้บ้าง รวมทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและความเจริญของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับ 1-2% ซึ่งปีหน้าท่านนายกจะพยายามทำให้ได้ 4% ภาคเกษตรเป็นส่วนที่สำคัญมาก ซึ่งอยู่ใน BCG ที่ทางรัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน ม.แม่โจ้ จะเป็นกำลังที่สำคัญที่สุดของ BCG และจะทำให้คนในภาคการเกษตร มีความกินดี อยู่ดี มีความสุขและนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *