ม.แม่โจ้ ร่วมกับรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน วิจัย พัฒนาพืชสมุนไพรสายพันธุ์กัญชง ช่วยส่งเสริมอาชีพเกษตรกรและต่อยอดเชิงอุตสาหกรรม

วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ 2 โครงการ กับรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ได้แก่ 1) โครงการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเพื่อเสริมสร้างอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร ร่วมกับ การยาสูบแห่งประเทศ ไทย , บริษัท เฮิร์บ เทรเชอร์ จำกัด , สมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงราย-พะเยา และ 2)โครงการวิจัย พัฒนาพืชสมุนไพรและกัญชง ร่วมกับ บริษัท เฮิร์บ เทรเซอร์ จำกัด และ บริษัท นอร์ทเทอร์นการเกษตร จำกัด โดยมี รอง ศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย นางสาวรมย์ชลี จันทร์ประสิทธิ์,นางสาวอริสา จิตต์เสนา กรรมการบริษัท เฮิร์บ เทรเซอร์ จำกัด นายสุระ พิมสาร นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จังหวัดเชียงรายและพะเยา นายวัชระ ตันตรานนท์ ประธานกรรมการบริษัท นอร์ทเทอร์นการเกษตร จำกัด เป็นผู้แทนลงนามของแต่ละฝ่าย โดยมี คณะผู้บริหารของแต่ละหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมรวงผึ้ง อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย ชั้น 5 มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ปัจจุบันวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา มี 6 หลักสูตร ได้แก่ สาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยว (นานาชาติ) โท-เอก, หลักสูตรสาขาการจัดการเกษตรอินทรีย์ (นานาชาติ) โท-เอก และหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ดิจิทัลและนวัตกรรมการจัดการ (นานาชาติ) โท-เอก โดยมีบุคลากรในสังกัดที่มีความรู้ความสามารถในหลายแขนง ซึ่งนอกเหนือจากการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรนานาชาติ ยังมีโครงการบริการวิชาการแก่สังคม และการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกอีกหลายโครงการ

สำหรับการลงนามความร่วมมือ โครงการวิจัยพัฒนาพืชสมุนไพรและกัญชง เพื่อร่วมกันศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกัญชงตั้งแต่เรื่องการผสมพันธุ์ การพัฒนาสายพันธุ์ การขยายพันธุ์เพื่อขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ การผลิตต้นกล้าการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกต่างๆ รวมถึงการพัฒนาระบบปลูก ทั้งระบบ โรงเรือน Hoop House ตลอดจนการวิจัยและพัฒนากัญชงเพื่ออุตสาหกรรมที่ปลูกกลางแจ้ง โดยหน่วยงานทั้งหมดได้ร่วมมือกัน เพื่อให้การดำเนินโครงการประสบความสำเร็จตามที่กำหนดไว้ ทั้งด้านการสนับสนุนบุคลากร การบริหารจัดการ โครงสร้างพื้นฐานและงบประมาณ โดยสัญญาฉบับนี้มีกำหนดระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ได้ลงนาม

ในส่วนของความร่วมมือ โครงการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเพื่อเสริมสร้างอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร สืบเนื่องจากการที่ เกษตรกร ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจ ซึ่งมีกิจกรรมหรือพันธะสัญญากับการยาสูบแห่งประเทศไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างภาษี ภายใต้พรบ.สรรพสามิต พ.ศ.2510 และนโยบายการต่อต้านการสูบบุหรี่ ส่งผลให้เกษตรกรขาดรายได้ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรและเครือข่ายวิสาหกิจในอุตสาหกรรมยาสูบได้มีโอกาสปลูกพืชกัญชงด้วยเมล็ดพันธุ์กัญชงที่มีคุณภาพเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล โดยจะร่วมการทดลองสายพันธุ์กัญชงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้ผลผลิตคุณภาพดีตรงตามความต้องการของตลาด และเป็นการพัฒนาระบบวิธีการปลูกเพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับการรองรับการนำไปใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม ร่วมสร้างความมือทางวิชาการอันจะนำไปสู่ความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตกัญชงในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อที่จะส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เกษตรกรยาสูบ ชุมชน วิสาหกิจเครือข่าย และระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *