ถีบ 2 ล้อ ผ่อเชียงใหม่ ไปกับ 6 เส้นทางปั่น หลากอารมณ์
“นักปั่น” ทั้งหลายลงความเห็นกันว่าเชียงใหม่นั้นเป็น “เมืองหลวง” และ “สวรรค์” ของนักปั่นจักรยานโดยแท้จริง เนื่องด้วยเสน่ห์ของภูมิประเทศและผังเมืองที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัวและมีเอกลักษณ์ ที่เอื้อให้เกิดเส้นทางปั่นจักรยานที่หลากหลาย ทั้งเส้นทางชมศิลปวัฒนธรรม ปั่นจิบกาแฟ แวะชิมของอร่อยๆ ฯลฯ รวมถึงปั่นปีนเขาไต่ระดับสูงๆต่ำๆ ที่มีดอยหลากหลายให้เลือกตามชอบ หรือเส้นทางปั่นทางราบแนวยาว เพื่อปั่นพักผ่อน และเพื่อทำความเร็วในการแข่งขัน
ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ จึงได้จัดทำเส้นทางปั่นจักรยานขึ้นมา เป็นการแนะนำให้นักปั่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ได้ปั่นเปิดประสบการณ์กัน
โดยมีทั้งสิ้น 6 เส้นทางมาแนะนำ ซึ่งสามารถเลือกใช้จักรยานแม่บ้าน จักรยานเสือภูเขา หรือจักรยานเสือหมอบ ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ เส้นทางคูเมือง – วัวลาย , เส้นทางเลียบน้ำปิง , เส้นทางคันคลองชลประทาน , เส้นทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – ดอยสุเทพ , เส้นทางสันกำแพง – ดอยสะเก็ด และเส้นทางสะเมิง
1.”เส้นทางคูเมือง – วัวลาย” เป็นเส้นทางปั่นสบายๆเพียง 7 กิโลเมตร เส้นทางนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นักปั่นจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองเก่าอย่างเต็มอิ่ม ในเส้นทางจะเป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ วัดวาอารามมากมาย ที่สามารถเข้าเยี่ยมชม และสักการะ เพื่อความเป็นศิริมงคล
2.”เส้นเลียบน้ำปิง” ระยะทาง 11 กิโลเมตร ปั่นเลียบแม่น้ำสายหลักของเมือง ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ แวะทานขนม จิบกาแฟ สัมผัสความคลาสสิคของตลาดและย่านการค้าเก่า พร้อมถ่ายรูปกับขัวเหล็ก
3.”เส้นคันคลองชลประทาน” ระยะทาง 20 กิโลเมตร ทางปั่นตรงๆยาวๆเลียบคลองชลประทาน ที่จะเลือกปั่นสบายๆ ณ ห้วยตึงเฒ่า หรือปั่นชมสวนที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือจะปั่นขึ้นดอยคำ ก็ได้เช่นกัน
4.”เส้นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – ดอยสุเทพ” ระยะทาง 20 กิโลเมตร ที่นักปั่นมีโอกาสมาเยือนเชียงใหม่สักครั้ง ไม่ควรพลาด เส้นทางนี้จะพาคุณปั่นจักรยานขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งทิวทัศน์สองข้างทางจะสวยงาม และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และหากไปถึงวัดแล้วแรงยังเหลือ สามารถปั่นขึ้นดอยไปเที่ยวต่อยังพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และบ้านม้งดอยปุย
5. “เส้นสันกำแพง – ดอยสะเก็ด” ระยะทาง 77 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ท้าทายนักปั่นไม่แพ้ที่ไหนๆ ในเส้นทางประกอบไปด้วยทางราบยาวๆ และดอยสูงชันที่ปลายฝั่งตะวันออกของเส้นทาง โดยเส้นทางนี้มีจุดแวะพัก ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมากมายรอให้นักปั่นทุกท่านแวะมาเยี่ยมชม
และ 6. เส้นทางสุดท้าย “เส้นทางสะเมิง” ระยะทาง 70 กิโลเมตร เส้นทางที่เหมาะสำหรับนักไต่เขา สามารถเริ่มปั่นได้จากทั้งทางฝั่งแม่ริมและหางดง ทิวทัศน์สองข้างทางในเส้นทางนี้มีความสวยงาม และเย้ายวนให้นักปั่นได้หลงใหลไปกับความเขียวขจีของธรรมชาติและความน่ารักของคนในชุมชน โดยไฮไลท์ของเส้นทางนี้คือ “เนิน 7 พับ” ซึ่งมีความชันต่อเนื่อง เป็นที่กล่าวขาน รอให้นักปั่นได้มาพิสูจน์ตัวเอง
สำหรับ 6 เส้นทางนี้ นักปั่นท่านใดสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-248604-5 หรือ www.chiangmaicycling.info หรือ Facebook : chiangmaicycling