“หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด” 5 มาตรการ ในการดูแลตัวเองช่วงหมอกควัน
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ แนะ 5 มาตรการ “หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด” ในการดูแลสุขภาพตัวเองช่วงหมอกควันไฟป่า หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ หรือปรึกษาสายด่วน 1422
นายสวาท ชลพล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หมอกควันจัดเป็นมลพิษทางอากาศอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งความเป็นอันตรายของฝุ่นละอองต่อสุขภาพขึ้นอยู่กับขนาดของฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาไหม้ ความเข้มข้น และระยะเวลาที่สัมผัส รวมทั้งสภาพร่างกายของผู้รับแต่ละคนด้วย
ฝุ่นควันหรือฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ที่เกิดจากการเผาไหม้จะส่งผลกระทบ ทำให้มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ทางผิวหนัง อาการทางตา นอกจากนี้ ฝุ่นที่เข้าไปในถุงลมปอด เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จะทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปกำจัดสิ่งแปลกปลอมนี้ และเกิดการอักเสบในหลอดเลือดได้ ก่อให้เกิดอันตรายต่อปอด เช่น การอักเสบของถุงลมปอด และบางรายอักเสบมากจนทำให้เกิดการหายใจลำบากจนถึงขั้นวิกฤต หรืออาจทำให้หลอดเลือดหัวใจอักเสบได้ ซึ่งฝุ่นควันที่เกิดจากการเผาไหม้ในบริเวณภาคเหนือ ก็ทำให้เกิดอาการได้เช่นเดียวกันกับฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ในกรุงเทพได้
สำหรับการดูแลสุขภาพตัวเองในช่วงหมอกควัน ให้ยึดหลัก 5 มาตรการ “หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด” คือ 1.) หลีกการสัมผัสฝุ่นละออง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด 2.) ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นละออง ทำความสะอาดบ้านทุกวัน 3.) ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดหมาดป้องกันฝุ่น 4.) เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน และ 5.) ลดการใช้รถยนต์และการเผาทุกชนิด พร้อมกันนี้ได้เฝ้าระวัง 4 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง ที่อาจเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งหากพบอาการผิดปกติประชาชนควรรีบพบแพทย์ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค เบอร์ 1422