จาก “ดอย” ลอยมา “เล”…ตอน “กินเพลินเดินเก๋ เท่อย่างใต้ : พังงา”
เอ่ยถึง “พังงา” แล้ว หลายต่อหลายท่านคงนึก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น “อุทยานแห่งชาติทางทะเล” ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติศรีพังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นต้น
ซึ่ง พังงา ใช่ว่ามีดีเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดี และอาหารการกินดีๆ มานำเสนอมากมาย จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาเที่ยวกัน…
สถานที่ท่องเที่ยวของ พังงา ที่น่าสนใจที่จะพาคุณๆมาเที่ยวในทริปนี้ ก็ได้แก่ สะพานสารสิน , อนุสรณ์สถานสึนามิเรือ ต.813 , หาดบางสัก และจุดชมวิวเสม็ดนางชี
“สะพานสารสิน” เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต เป็นสะพานแห่งแรกที่มีการสร้างเพื่อข้ามจากจังหวัดพังงาไปภูเก็ต เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าฉัตรไชยและบ้านท่านุ่นของจังหวัดพังงา สะพานแห่งนี้ตั้งชื่อตามนามสกุลของ “นายพจน์ สารสิน” ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาการแห่งชาติ เริ่มสร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494
สำหรับ สะพานสารสิน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ที่เป็นตำนานความรักของหนุ่มสาวสองคนที่ไม่สมหวัง คือ โกดำ (ดำ แซ่ตัน) กับ กิ๊ว (กาญจนา แซ่หงอ) ที่มีความแตกต่างกันทางฐานะ ด้วยโกดำเป็นเพียงคนขับรถสองแถวรับจ้างและรับจ้างกรีดยาง ขณะที่กิ๊วมีฐานะที่ดีกว่า และเป็นนักศึกษาวิทยาลัยครู โดยที่ผู้ใหญ่ทางบ้านของกิ๊วได้กีดกั้นทั้งไม่ให้สองคบหากัน และด้วยความรักที่มีต่อกัน ในที่สุดทั้งคู่จึงตัดสินใจกระโดดน้ำตายที่กลางสะพานสารสิน ด้วยการใช้ผ้าขาวม้ามัดตัวทั้งสองไว้ด้วยกัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 ซึ่งเรื่องราวของทั้งคู่โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่ว และมีการสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ คือ สะพานรักสารสิน ในปี พ.ศ. 2530 นำแสดงโดย รอน บรรจงสร้าง และจินตรา สุขพัฒน์ และ สะพานรักสารสิน ในปี พ.ศ. 2541 นำแสดงโดย นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล และคทรีน่า กลอส ซึ่งเป็นละครโทรทัศน์ ออกอากาศทางช่อง 3
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่ากันว่า ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง จะมีกระต่ายสีขาวตาสีแดงคู่หนึ่ง ออกมาอยู่คู่กันที่สะพานแห่งนี้ เชื่อว่าเป็นวิญญาณของทั้งคู่
“อนุสรณ์สถานสึนามิเรือ ต.813” เป็นอนุสรณ์แห่งความร้ายกาจของคลื่นยักษ์สึนามิที่สามารถพัดพาเรือ ต.813 สังกัดหน่วยงานกรมตำรวจ ที่มีน้ำหนักถึง 60 ตัน ให้เข้ามาเกยถึงบริเวณเชิงเขาเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ครั้นเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป เรือลำนี้จึงได้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งใหม่ ที่นำพาให้ทุกคนรำลึกถึงแรงปะทะและความเสียหายที่เกิดขึ้นของสึนามิ
ภายในบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งนี้ มีป้ายนิทรรศการแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์สึนามิที่บ้านบางเนียง รวมทั้งจำหน่ายของที่ระลึกและหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนั้นด้วย
“หาดบางสัก” เป็นชายหาดที่อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่าไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 มุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต เป็นระยะทาง 14 กิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนจะเป็นคนไทย โดยเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะสำหรับครอบครัว ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมจะมาพักผ่อนกันในยามบ่าย และหาดแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย
“จุดชมวิวเสม็ดนางชี” ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ที่น้อยคนจะเคยมาเยือน โดยตั้งอยู่ ณ อำเภอตะกั่วทุ่ง เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ของอ่าวพังงา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สุดอันซีนที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายขอบฟ้า พร้อมแทรกตัวอยู่ระหว่างภูเขาน้อยใหญ่ นอกจากจากนี้ในยามค่ำคืน ยังสามารถมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าอีกด้วย
สำหรับที่มาของคำว่า เสม็ดนางชี นั้น มาจากเรื่องเล่าในอดีตว่า ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีพระภิกษุชรา1รูป อาศัยอยู่ที่เขาพระอาดเฒ่า พระภิกษุหนุ่มอาศัยอยู่ที่เขาพระอาดหนุ่ม และมีแม่ชีอาศัยอยู่ที่ใกล้จุดชมวิว และจะเดินไปมาหาสู่กัน แล้วต้องเดินผ่านลำคลอง เมื่อแม่ชีเดินผ่านต้อง เหม็ดผ้าขึ้น หมายถึง พับผ้าขึ้น ให้พ้นจากระดับน้ำ ไม่เช่นนั้นชายผ้าจะเปียกหมดจึงเป็นที่มาของคำว่า เสม็ดนางชี
รายละเอียดในการขึ้นไปชมวิวที่เสม็ดนางชีนั้น ค่าธรรมเนียมการเข้าชม คนไทย 30 บาท ต่างชาติ 50 บาท เด็กเล็กฟรี โดยจะเดินขึ้นไปหรือนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปก็ได้ แต่ต้องเสียค่ารถท่านละ 50 บาท ข้างบนมีบริการลานกางเต้นท์ บ้านพัก และร้านอาหาร สำหรับผู้ที่จะมานอนค้างแรม สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 098-7403897 , 081-8941159 และ 084 -7448653
เที่ยวกันแล้วก็ได้เวลากิน โดยที่ พังงา มีของกินอร่อยๆให้ลิ้มรสเพียบ ซึ่งขอเริ่มต้นที่ร้าน “ร้านผัดไทยใจเย็นเย็น” ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอีกร้านของเมืองตะกั่วป่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 โดยคุณปูสนิท และย่าสง่า เรืองเนตร เปิดเป็นร้านขายอาหารเล็กๆ ณ วัดเสด็จ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ขายอาหาร กาแฟ มีให้เลือกทั้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว โดยเมนูที่ขายดีที่สุดก็เป็น ราดหน้าและผัดไทย ที่สมัยนั้นขายในราคา 7 บาท
ต่อมาในยุคเหมืองแร่ดีบุกรุ่งเรือง เมืองตะกั่วป่า ปี พ.ศ.2531 ลูกๆได้สืบทอดกิจการต่อ และย้ายร้านมาเปิดที่ตะกั่วป่า เติบโตเป็นร้านผัดไทยใจเย็นเย็น มาวันนี้ ร้านแห่งนี้ บริหารงานโดย คุณบุญรอด เรืองเนตร ที่เน้นย้ำเสมอว่า “คำว่า อร่อย ที่ลูกค้าติชม คือ รางวัลสำหรับครอบครัวเรา” วันนี้พวกเราจึงปรุงอาหารด้วยหัวใจ อยากให้คุณได้ทานอาหารที่อร่อยแบบไม่ใช้ผงชูรส แต่ใช้ใจปรุง เลือกวัตถุดิบกุ้งสดจากอันดามัน ที่ให้รสดี มีคุณภาพ เพื่อคุณโดยเฉพาะ…!!!
ที่นี่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยของผัดไทยแล้ว ยังมีของหวานอย่าง “บัวลอย” ที่อร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย โดยใครมาก็มักจะสั่งมาทานตบท้ายทุกครั้งไป
อีกร้านเป็น “ร้านอาหารในเหมืองเขาหลัก” เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งย้อนรอยสมัยเหมืองแร่ดีบุกรุ่งเรือง ในยุคที่เมืองตะกั่วป่าทำเหมืองแร่ โดยทางร้านได้นำอุปกรณ์ที่ใช้ในเหมืองแร่มาจัดแสดงอยู่ทั่วร้าน เพื่อระลึกถึงความทรงจำให้กับคนรุ่นหลังที่ไม่เคยพบเห็นและลูกค้าชาวไทย ชาวต่างชาติ ได้ชม
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งอาหารซีฟู๊ดและอาหารพื้นเมือง แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็น หมูฮ้อง แกงไตปลา ปลาราดพริก ผัดผักเหมียง และขนมจีนน้ำยาปู ที่มีผักพื้นบ้านพร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้าทุกคน เป็นต้น
และสุดท้าย กับร้านกาแฟบนยอดไม้ “Tree Cups Phangnga Coffee” ร้านกาแฟบนต้นไม้ที่กำลังมาแรงของพังงา ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเขาเปาะ ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง โดยตัวร้านตั้งอยู่บนบนต้นตะเคียนรากขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 17 เมตร อายุกว่า 300 ปี เป็นร้านกาแฟที่คุณๆจะได้สัมผัสบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติของต้นไม้เขียวขจีและอากาศแสนบริสุทธิ์ รวมทั้งสามารถชมทัศนียภาพของอ่าวพังงาได้แบบ 180 องศาอีกด้วย
พังงา วันนี้มีของดีมาอวดเพียบ เมื่อมีของดีๆมานำเสนอเช่นนี้ จะมัวช้ากันอยู่ใย รีบเก็บกระเป๋ามาพังงากันด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รีบมา “เสม็ดนางชี” แล้วถ่ายภาพสวยๆมาอวดให้เพื่อนอิจฉากัน…!!!