“วิ่งนี้เพื่อ…ลมหายใจ ดอยหลวงเชียงดาว” วิ่งในวันแห่งความรัก วิ่งไปส่งกำลังใจไปให้ “ผู้ปกป้องดอยเชียงดาว”
Run For Breath 111 ปี เชียงดาวมินิมาราธอน “วิ่งนี้เพื่อ…ลมหายใจ ดอยหลวงเชียงดาว” ซึ่งหลังจากเจอพิษโควิด-19 ที่ก่อนหน้านี้กำหนดจัดวิ่งในวันที่ 17 มกราคม 2564 ที่ไม่อาจจัดวิ่งได้ตามกำหนดการที่วางไว้ ได้เลื่อนเรื่อยมาโดยไม่มีกำหนด ที่สุดคณะทำงาน “สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอเชียงดาว” ได้มีมติให้จัดวิ่งในวันแห่งความรัก วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 เริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 น. ณ ลานหน้าหอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะทำงานได้บทสรุปออกมาว่า “วิ่งเพื่อลมหายใจดอยหลวงเชียงดาว” กำหนดจัดกิจกรรมวิ่งในวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ณ เทศบาลตำบลเชียงดาว โดยนักวิ่งสามารถรับเสื้อ และ bib ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ในช่วงเวลา 10.00 – 17.30 น. ณ หอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว พร้อมกันนี้ยังเปิดรับสมัครหน้างาน ณ วันจัดกิจกรรมด้วย โดยสมัครแบบไม่เอาเสื้อ 250 บาท หากรับเสื้อด้วยค่าสมัคร 400 บาท ทั้งนี้เสื้อวิ่งมีจำนวนจำกัด ผู้ใดสมัครก่อนก็ได้ก่อน
สำหรับเงื่อนไขสำคัญในการจัดกิจกรรมวิ่ง ในรื่องรูปแบบการจัดกิจกรรม จะจัดแบบ New Normal โดยจัดให้มีจุดคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรม ในจุดรวมพลบริเวณปล่อยตัว นักวิ่งทุกคนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อปล่อยตัวแล้วจึงจะถอดหน้ากากได้ นอกจากนี้การปล่อยตัวก็จะมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร ส่วนน้ำและอาหารจะแจกจ่ายเป็นขวด และอาหารจะบริการเป็นข้าวกล่อง โดยห้ามนักวิ่งที่มาจากพื้นที่สีแดงเข้ม พื้นที่สีแดง และพื้นที่สีส้ม ตามประกาศของ ศบค. เข้าร่วมกิจกรรม
โดย “วิ่งเพื่อลมหายใจดอยหลวงเชียงดาว” นี่ นายสุวิทย์ แก้วกำเนิด นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอเชียงดาว กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ว่า ดอยหลวงเชียงดาวเป็นพื้นที่ที่ต้องอนุรักษ์ ที่ในทุกปีมักเกิดไฟป่าขึ้นเสมอ 2-3 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่า เข้าขั้นวิกฤติ ทางอำเภอเชียงดาว รวมถึง สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอเชียงดาว ได้เห็นปัญหานี้ รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ต้องคอยป้องกัน เฝ้าระวัง และดับไฟป่าที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยมากมายในการปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งอาหาร น้ำดื่ม น้ำมันรถ และยารักษาโรค ก็เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จึงจัดกิจกรรมวิ่งครั้งนี้ขึ้นมา เป็นการหารายได้จัดสรรให้หมู่บ้านต่างๆ สำหรับใช้ในการจัดการไฟป่าในพื้นที่
